วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556

* - * - * - * - * - * - * - * - * - * >> ภาคเหนือ << * - * - * - * - * - * - * - * - * - *

* - * - * - * - * - * - * - * - * - *
>> ภาคเหนือ <<
 * - * - * - * - * - * - * - * - * - *

::ข้าวหนุกงา ::

ของกิ๋นของหละอ่อนสมัยก่อน มีให้เลือกไม่มาก ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นทั้งขนมทั้งอาหารที่กินแล้วอิ่มหนำสำราญโดยไม่ต้องกินข้าวอีก เช่น งาต๋ำอ้อยกินกับข้าวเหนียวร้อน ๆ ข้าวหลามไม้ป้าง ถั่วน้ำอ้อยพ่อง แต่ที่ขาดไม่ได้คือ ข้าวหนุกงา ที่เป็นอาหารสุดแสนวิเศษสำหรับหละอ่อนสมัยก่อนนักหนา วันนี้ก็อยากนำ ข้าวหนุกงา” มาเล่าให้หละอ่อนบ่าเดี่ยวฟังพ่องว่า “ข้าวหนุกงา” เป็นอะหยัง ไผยังบ่ได้กิ๋นก็ฮื่อฟั่งไปกิ๋น จะไปกิ๋นแต่อาหารบ้านอื่นเมืองอื่นจนลืมอาหารบ้านเฮาเน้อ....

ข้าวหนุกงา  (หนุก แปลว่า คลุกหรือนวด)  มีการเรียกชื่อที่แตกต่างกันไปตามถิ่นที่อยู่อาศัย เช่น บางแห่งเรียกว่า “ข้าวงา” "ข้าวหนึกงา"หรือบางพื้นที่ก็เรียกว่าข้าวแดกงา” แต่กระบวนการทำและวัสดุที่ใช้ก็ไม่ต่างกันเลย ยิ่งสมัยนี้มีการประยุกต์ได้หลาย ๆ แบบ หาซื้อได้ตามกาดเจ๊าทั่วไป งาที่เอามาใช้หนุกงา หรือคลุก จะใช้ “งาขี้ม้อน” ซึ่งมีลักษณะจะเป็นงาเม็ดกลมเล็กยิบๆ เหมือนลูกปัดหรือทราย ก่อนที่จะนำงามาต๋ำก็ต้องทำการ “ตาว” เสียก่อน การตาวก็คือการคัดเอาสิ่งเจือปนที่ไม่ดีออก เช่น เศษหิน ดิน ทราย โดยเอาไปแช่น้ำ เศษต่าง ๆ จะเหลือเฉพาะงาขี้ม้อนลอยอยู่ หลังจากนั้นก็นำมาตากให้แห้งแล้วเอามาคั่วไฟให้หอมๆ นำมาต๋ำใส่เกลือเล็กน้อยคลุกเคล้ากับข้าวเหนียวนึ่งร้อน ๆ 
ข้าวเหนียวนึ่งต้องเป็นข้าวออกใหม่ที่บ้านเราเรียกว่าข้าวใหม่” ถึงจะ ลำแต้ ๆ” คนบ้านเฮาโดยเฉพาะหละอ่อนบ่าก่อนจึงมักขนาด กิ๋นตอนหน้าหนาวซ้ำเหมาะแต้ ๆ

เกร็ดน่ารู้            
ข้าวเหนียว ต้องเป็นข้าวที่สุกใหม่ ร้อนๆ จะทำให้ข้าวกับงาขี้ม้อนโขลกเข้ากันได้ง่าย  นิยมรับประทานขณะข้าวอุ่นๆ จะมีรสชาติดีกว่าทิ้งไว้ให้เย็น ข้าวหนุกงา หรือข้าวคลุกงา ใช้งาขี้ม้อน (งาเม็ดกลมสีน้ำตาลเทา) โขลกกับเกลือ และข้าวนึ่งสุกใหม่ๆ ชาวล้านนานิยมทำข้าวหนุกงา ในช่วงฤดูหนาวเฉพาะในช่วงเช้า ซึ่งช่วงนั้นเป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวใหม่







:: ขนมเป็งม้ง ::

ขนมไทยเรานั้นมีกรรมวิธีในการทำที่ละเอียดอ่อนมาก  พร้อมทั้งวัตถุดิบที่เป็นของไทยเราเองด้วยนั่นเอง  ขนมไทยที่ทำออกมานั้นก็เลยอร่อยในแบบไทยๆเรานั่นเอง  ขนมไทยที่น่าสนใจนี้ไม่ใช่ว่าจะรู้จักกันเฉพาะคนไทยเท่านั้นนะ  แต่ยังดังไปไกลถึงเมืองนอกเมืองนากันเลยก็ว่าได้  เป็นที่ชื่นชอบแก่ชาวต่างชาติที่มีความชอบในอาหารไทยเรานั่นเอง   อย่างเรื่องราวในวันนี้นั้นก็เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจอีกเรื่องที่เรานำมาฝากกันในวันนี้นั่นเอง  ในวันนี้นั้น  เราจะพาเพื่อนๆไปทำขนมไทยที่เรานั้นนำมาฝากกันนั่นเอง  ขนมไทยที่น่าสนใจนั้นก็คือ "ขนมเป็งม้ง" นั่นเอง  แค่ได้ยินชื่อก็ไม่รู้จักแล้ว  ส่วนท่านใดที่รู้จักกันแล้วก็สามารที่จะทำทานได้เลย  แต่สำหรับท่านใดที่ยังไม่ทราบเกี่ยวกับเรื่องของขนมไทยที่เราว่านี้นั้นวันนี้เราพร้อมที่จะนำเพื่อนๆที่มีความสนใจนั่นไปรู้จักกันนั่นเอง

เกร็ดน่ารู้
"ขนมเป็งม้ง" นั้นจะมีรสชาติที่หวาน รับประทานเป็นอาหารว่างได้ มีขายที่ตลาด ขนมที่มีความขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยที่สุดของจังหวัดแม่ฮ่องสอนกันเลยก็ว่าได้ แต่ผู้ที่เป็นเบาหวาน โรคอ้วน ไม่ควรรับประทานมากเกินไปเพราะจำทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ด้วยนั่นเอง  ต่อมาเรามาดูว่าเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับขนมที่ว่านี้นั้นจะมีวิธีการทำง่ายดายขนาดไหน  วันนี้เราจะได้ทราบไปพร้อมๆกันนั่นเอง







:: ข้าวต้มหัวหงอก ::


"ข้าวต้มหัวหงอก" เป็นขนมชนิดหนึ่งของชาวล้านนา ปัจจุบันก็ยังนิยมรับประทาน และมีขายทั่วไปในท้องตลาด  ในการเลือกกล้วย ควรเป็นกล้วยน้ำว้า เพราะจะทำให้ข้าวต้มหัวหงอกมีรสชาติหวานอร่อย
         "ข้าวต้มหัวหงอก" มีเคล็ดลับในการปรุง ก็คือคลุกน้ำคั้นใบเตยกับข้าว เพื่อให้มีกลิ่นหอมและสีสวยน่ารับประทาน

เกร็ดน่ารู้
การห่อข้าวต้มต้องห่อให้แน่น และมัดเชือดให้แน่น จะทำให้ข้าวต้มหัวหงอกเหนียว รสชาติอร่อย







:: ขนมมวง ::

"ขนมวง" คือขนมที่ทำด้วยแป้งเป็นรูปวงกลมแบบเดียวกับขนมโดนัท มีน้ำอ้อยหยอดไปโดยรอบตามกึ่งกลางด้านบน ปัจจุบัน ไม่คอยมีขายในท้องตลาดในเมือง แต่มักจะพบในตลาดแถวชานเมือง
"ขนมวง" หลายคนคุ้นเคยดีกับขนมรูปทรงคล้ายโดนัทราดน้ำอ้อย วิธีทำก็ไม่ยุ่งยากเริ่มต้นจากเอาแป้งข้าวจ้าวกับกล้วยสุก หรือฟักทองที่นึ่งจนสุกมาบดจนละเอียด แล้วคลุกเคล้าเข้าดัวยกัน นวดกับแป้งโดยใช้น้ำอุ่น และหัวกระทิให้ตัวแป้งเหนียวพอประมาณ พักไว้ 20 นาที จากนั้นจึงปั้นแป้งเป็นรูปวงแหวน (โดนัท) ขนาดเล็กนำไปทอดจนเหลืองทั้งสองด้านแล้วพักไว้ คราวนี้หันมาทำทีเด็ด เคี่ยวน้ำอ้อยให้ข้นเป็นยางมะตูมแล้วนำไปหยอดบนตัวขนม ในกรณีที่ใช้น้ำตาลปี๊ป ให้ละลายกับน้ำเล็กน้อยแล้วเคี่ยวจนเหนียว เสร็จแล้วก็นำไปหยอดบนด้านใดด้านหนึ่งของขนมวง รอให้เย็นแล้วก็รับประทาน

เกร็ดน่ารู้
          ก่อนนำขนมลงทอด ให้ใส่ใบเตยลงไปทอดก่อนแล้วตักขึ้น เพื่อให้น้ำมันมีกลิ่นหอม         








:: ขนมเกลือ ::


"ขนมเกลือ" นี้เองมีคำพูดทีเล่นทีจริงว่า ข้าวหนมเกลือ เบือบ่าวกล่าวคือหากสาวๆ ไม่ชอบหนุ่มคนไหนที่มาเกี้ยวพาราสี ก็ไห้เอาขนมเกลือไม่หวานมีแต่แป้งมาต้อนรับ หากหนุ่มกินมาก ๆ จะแน่นท้องจนพูดอะไรไม่ออก และอาจกลับบ้านไปเลย
"ขนมเกลือ" เป็นขนมที่ทำจากแป้งข้าวจ้าว โดยการเอาแป้งข้าวเจ้ามาผสมกับเกลือและใส่น้ำลงไปให้เข้ากัน หากชอบกะทิก็ใส่ลงไปด้วย แล้วนำไปเคี่ยวด้วยไฟกลางให้แป้งข้นกำลังดี ไม่สุกเกินไป จากนั้นให้ทิ้งให้เย็นแล้วนำใบตองมาห่อเป็นลักษณะแบน ๆ ไม่ต้องใช้ไม้กลัด แล้วนำไปนิ่งอีกประมาณ 20-30 นาที เนื้อขนมที่สุกจะมีสีขาว มีรสเค็มเล็กน้อย แต่หากชอบหวานก็อาจใส่น้ำตาลปี๊ปผสมกับแป้ง หรือจะโรยงาดำด้วยก็ได้  

เกร็ดน่ารู้
          ควรใส่ใบเตยลงในน้ำนึ่งขนม เพื่อให้ขนมมีกลิ่นหอม





* - * - * -  * - * - * - * - * - * - * - * - * - * - * - * - * - * - * - * -* - * - * - *

1 ความคิดเห็น :